ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลกนี้หรือไม่

ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลกนี้หรือไม่ คำถามที่ยังไม่ได้งงงันเพียงนักปรัชญา, ผู้นำศาสนา mystics, ศิลปิน แต่ยังนักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุและวิธีการที่จักรวาลนี้ถูกสร้างขึ้น ปังใหญ่ทำไมถึงเกิดอะไรขึ้น วิธีจักรวาลก่อนปังใหญ่หรือไม่? ผู้ที่จะถามคำถามนี้หรือไม่ เพลงเก่าแสดงภาษาฮินดีเควสนี้เกี่ยวกับมนุษย์ในคำต่อไปนี้

Oh! ผู้สร้างโลก,

Singh Is King Songs

สิ่งที่มาในใจของคุณหรือไม่

ทำไมคุณสร้างโลกนี้หรือไม่

ทำไมคุณสร้างมนุษย์มีชีวิตอยู่

ใบหน้าและใบหน้าสวยน่ารัก

ทำไมคุณจะทำให้ความสุขของความรัก

แล้วทำไมคุณให้ความเจ็บปวดจากการคัดแยก?

ในขณะที่เรารู้ว่าโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าหรือวิวัฒนาการมาจากพลังงาน แต่เราหาคำอธิบายเหตุผลของการสร้างของมันไม่ เหตุผลของการสร้างจะต้องเป็นความรู้เกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำนายผล หากเรารู้ว่าจุดประสงค์ของการสร้างนั้นมันเป็นเรื่องยากที่จะนำไปสู่​​ชีวิตที่สอดคล้องกับความต้องการของพระเจ้าหรือกฎหมายของธรรมชาติEinstein เกินไปที่ต้องการทราบความคิดของพระเจ้าที่เขากล่าวว่า"ฉันต้องการทราบความคิดของพระเจ้า. ส่วนที่เหลือเป็นรายละเอียด"

สิ่งที่พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับการสร้าง?

พระคัมภีร์ไม่ได้ช่วยมากในการทำความเข้าใจปริศนานิรันดร์ เพียงพระคัมภีร์กล่าวว่าในบทแรกเกี่ยวกับปฐมกาลว่าในช่วงต้นพระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน แผ่นดินถูกไม่มีรูป, ว่างเปล่าและความมืดและพระวิญญาณของพระเจ้าได้โฉบเหนือน้ำ หลังจากนั้นพระเจ้าทรงสร้างแสง, น้ำ, พืชพรรณวันคืนดาวนกและสัตว์ ในที่สุดพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ในรูปของตัวเองและหญิงที่สร้างขึ้นต่อมาจากกระดูกซี่โครงของผู้ชายคนหนึ่ง ทฤษฎีของการสร้างในศาสนาอิสลามค่อนข้างคล้ายกับที่ในพระคัมภีร์

ปรัชญาของศาสนาฮินดู Vedanta เชื่อว่าโลกทางกายภาพคืออะไร แต่การสำแดงของพระเจ้า ดังนั้นมันจึงเชื่อว่าพระเจ้าไม่ได้นิติบุคคลแยกต่างหากจากโลกภายนอก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของพระองค์ "ทั้งหมดในพระเจ้าและพระเจ้าในทุก"เป็นคำอธิบายที่ง่ายที่สุดของแนวความคิดของจักรวาลและพระเจ้า

ถ้าพระเจ้าสามารถนำมาเปรียบเทียบกับร่างกายของบุคคลนั้นบุคคลสามารถนำมาเปรียบเทียบกับเซลล์ของร่างกาย เช่นเดียวกับมี trillions ของเซลล์เป็นล้าน ๆ ชนิดเพื่อให้เป็นรูปแบบที่แตกต่างกันของการสร้างสรรค์ในจักรวาล แต่ทุกรูปแบบที่แตกต่างกันของเซลล์เช่นที่ผิวหนัง, กระดูก, เล็บ, เลือด, ผมก็มาจากเซลล์ปฏิสนธิเดียว ซึ่งขณะนี้ได้รับการพิสูจน์จากความสำเร็จของการโคลนที่ทุกเซลล์เดียวของร่างกายสามารถที่จะพัฒนาตัวเองไปยังร่างกายที่เต็มเหมือนตัวแม่ ดังนั้นพระเจ้ามีอยู่ในมนุษย์ทุกคนมีชีวิตทั้งหมดและถูกมีเป้าหมายและความสามารถในการเป็นพระเจ้าด้วยพลังของกรรมและบรรลุความรอดหรือร่วมกับพระเจ้า

ใน Gita เมื่อ Arjuna อยากจะเห็นวิสัยทัศน์ของพระเจ้าพระเจ้ากฤษณะกล่าวว่า
O Arjun, เห็นมานับร้อยพันรูปแบบที่ศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างที่แตกต่างกันของสีและรูปร่างของฉัน ดูเถิดทั้งหมดมนุษย์สวรรค์และสิ่งมหัศจรรย์มากไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ยังเห็นทั้งการสร้าง - ภาพเคลื่อนไหว, เซื่องซึมและสิ่งอื่นที่คุณต้องการจะดู -- ทุกที่ที่เดียวในร่างกายของฉัน แต่คุณจะไม่สามารถเห็นข้าด้วยตาทางกายภาพของคุณ; ดังนั้นฉันให้คุณตาของพระเจ้าเห็นอำนาจและพระสิริคู่บารมีของฉัน (Gita, 11:5-11.08)

ดังนั้นจึงมีสองประเภทในวงกว้างของทฤษฎีในพระคัมภีร์ หนึ่งที่เห็นพระเจ้าเป็นภายนอกเป็นผู้ที่สร้างความเป็นสองเช่นโลกและอื่น ๆ ซึ่งถือว่าการสร้างและพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกันและการแบ่งแยกเป็นสองสิ่งหรือไม่ ความแตกต่างที่ไม่ใช่ของพระเจ้าและสิ่งมีชีวิตมักจะเป็นเรียกว่าเป็น Advaita (ไม่ใช่การแบ่งแยกเป็นสอง) หรือปรัชญา Vedanta ของ Upanishads ในศาสนาฮินดู แต่ปรัชญาไม่ dualistic เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้มากที่สุดโดยคนธรรมดาเช่นทฤษฎีของความสัมพันธ์ของ Einstein ดังนั้นในความเป็นจริงแล้วชาวฮ​​ินดูส่วนใหญ่เชื่อในแนวคิดของพระเจ้าที่จะแตกต่างจากคำแนะนำของบุคคลและที่และชี้นำโลก ในความเป็นจริงฮินดูไม่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียว แต่ในล้านของพระเจ้าที่ทุกคนมีหน้าที่เฉพาะเพื่อดำเนินการ แต่ก็ยังเห็นพ้องว่าพระเจ้าทั้งหมดเป็นอะไร แต่การประกาศของศาลปกครองสูงสุดหนึ่งจริง นอกจากพระเจ้าของศาสนาฮินดูอยู่ในรูปแบบมนุษย์และด้วยเหตุนี้จะเห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ในรูปของพระองค์

พระคัมภีร์ทั้งหมดในวงกว้างยอมรับว่าโลกนี้ไม่ใช่โลกที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดให้แนวคิดของสวรรค์หรือ paradises ที่อยู่อาศัยได้ฟรีจากปัญหาของโลกซึ่งจะถือเป็นสถานที่ของความเจ็บปวดและความทุกข์ยากนี้ที่มีผู้ส่งต้องถูกลงโทษ พระคัมภีร์บอกว่ามนุษย์คือลงโทษฐานบาป"ต้นฉบับ"โดยมุ่งมั่นที่อาดัม ศาสนาฮินดูกล่าวว่าโลกนี้ karmabumi หรือสถานที่ที่กรรม (การกระทำ) ที่บุคคลสามารถทำงานและปฏิบัติงานเพื่อที่เขาจะได้รับความรอดหรือเป็นอิสระจากโลกนี้ พุทธศาสนาก็ยอมรับความเจ็บปวดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกนี้และเป้าหมายของมนุษย์คือการได้รับการบรรเทาจากความเจ็บปวดจากความรู้จริงหรือการตรัสรู้

แต่ถ้าเรามีความเชื่อใด ๆ ในภูมิปัญญาของพระเจ้านั้นจะต้องมีจุดประสงค์ในการออกแบบของโลกและแต่ละคนจะต้องเกิดในโลกนี้เพื่อวัตถุประสงค์และเป้าหมาย สิ่งที่อาจเป็นจุดประสงค์ที่ของพระเจ้าและเป้าหมายของมนุษย์?

พระเจ้าทรงตระหนักถึงความ

พระคัมภีร์ทั้งหมดให้คำแนะนำว่าเป้าหมายของมนุษย์ทุกคนจะต้องตระหนักพระเจ้าหรือจะเป็นเหมือนพระเจ้า แนวความคิดของพระเจ้าในทุกศาสนาคือการช่วยคนในการค้นหาชีวิตที่เหมาะสำหรับการบรรลุศักดิ์ คริสตชนที่คาดว่าจะปฏิบัติตามชีวิตของพระเยซูคริสต์, มุสลิมต้องปฏิบัติตามชีวิตของท่านนบี Mohammad และฮินดูจะต้องเป็นเหมือนพระรามและกฤษณะ นับถือศาสนาพุทธก็ต้องการที่จะเป็นเช่นพระพุทธรูป ดังนั้นทั้งหมดศาสดาและพระเจ้าของพวกเขาในชาติที่มนุษย์ให้เหมาะที่คนจะต้องปฏิบัติตามในชีวิตของเขาเพื่อให้เขาเป็นเหมือนพระเจ้า

เมื่อคนจะกลายเป็นพระเจ้าแล้วเขาสมควรจะเกิดขึ้นในสวรรค์และได้รับฟรีจากการเป็นทาสของแผ่นดิน นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของทุกศาสนา ทุกศาสนายอมรับคนที่ต้องรับตัวเองได้ฟรีจากที่ชื่นโลกและกลายเป็นจิตวิญญาณเพื่อให้เขาสามารถเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า ได้แก่สวรรค์

แม้ว่าทั่วโลกกำลัง portrayed เป็นความชั่วร้ายและสถานที่ของความเจ็บปวดยังคนน้อยมากหาโลกเจ็บปวดเพื่อ ในความเป็นจริงที่คนส่วนใหญ่รักโลกนี้และการสร้างสรรค์ที่หลากหลายและต้องการที่จะอยู่ในโลกนี้ตลอดไป ไม่บ่อยคนต้องการที่จะตายแม้จะมีอาการปวดใบหน้าของเขาในโลกนี้ เหตุผลก็คือว่าถ้ามีอาการปวดนอกจากนี้ยังมีความสุขในโลกนี้ กี่คนในโลกนี้มีความสนใจในการเป็นจิตวิญญาณจริงๆ? คนส่วนใหญ่ต้องการทางโลกสิ่งที่พระเจ้าเป็นที่มีชื่อเสียงนี้เพลงภาษาฮินดีกล่าวว่า

หากด้านหนึ่งคือคุณเป็นคนรักของฉัน

และด้านอื่น ๆ คือพระเจ้า

ฉันจะบอกว่าขอโทษที่พระเจ้า

และจับมือของคุณ

โลกวัตถุประสงค์ของ

พระเจ้าได้สร้างโลกนี้อย่างชาญฉลาด ในขณะที่พระองค์ทรงสร้างและหญิงคนแรกเขาให้บางส่วนของอำนาจของพระองค์ไปสู่​​การสร้างของเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างมนุษย์อื่น ๆ ทั้งหมดดังนั้นการสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ค่อนข้างคล้ายกับการสร้างของพระเจ้า ทุกสถาบันและระบบที่สร้างขึ้นโดยคนมีแรงบันดาลใจจากพระเจ้า แนวคิดของความยุติธรรมความเสมอภาคความรักที่มีต่อสิ่งใด แต่คุณภาพของพระเจ้าอยู่ในมนุษย์

ตั้งแต่คนเป็นอะไร แต่ภาพของพระเจ้าของพวกเขาทั้งหมดจะต้องมีการสร้างความคล้ายคลึงกับสถาบันที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าบาง ดังนั้นโลกได้รับการรับรู้ที่แตกต่างจากคนที่แตกต่างกัน เช็คสเปียร์การรับรู้โลกเป็นเวทีใน"แบบที่คุณชอบ"

ทั่วโลกของเวที,

และทั้งหมดชายและหญิงเพียงแค่ผู้เล่น;

พวกเขาได้ออกจากการทำงานของพวกเขาและพวกเขาทางเข้า,

และคนเดียวในเวลาที่เขาเล่นส่วนมาก

การกระทำของเขาถูกเจ็ดวัย

ในสายตาของศิลปิน, โลกนี้คืออะไร แต่ละครที่ทุกคนกำลังเล่นตัวอักษร อย่างไรก็ตามสมมติฐานนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเป็นจริงเป็นคนในโลกนี้จะได้รับฟรีได้ที่พระเจ้าจะคิดและทำ ดังนั้นคนที่ไม่ทำหน้าที่ แต่หันหน้าไปทางโลกแห่งความจริงกับกองกำลังที่แท้จริงของความเจ็บปวดและความสุข โลกนี้ดูเหมือนมากขึ้นเช่นโรงเรียนที่มีปัญหาของการทดสอบที่สร้างขึ้นว่าเทียมเพื่อทดสอบความรู้, มีความจริงสำหรับนักเรียน

โรงเรียนโลกเป็น

แนวความคิดของโลกสมัยใหม่เป็นไปไม่ได้ที่จะคิดได้โดยไม่ต้องแนวความคิดของโรงเรียน มนุษย์ทุกคนได้เข้าโรงเรียนเมื่ออายุซื้อและได้เรียนรู้องค์ความรู้ของโลกจากครูของเขา เค้าก็จะต้องผ่านการตรวจสอบดำเนินการโดยโรงเรียนที่ทดสอบความรู้ทางโลกของบุคคล เมื่อมีบุคคลได้มาซึ่งความรู้ทางโลกเขาจะพอดีเข้าไปในอาชีพและการมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าวัสดุของโลก

ขณะที่อยู่ในโรงเรียนทุกคนมีให้ผ่านการทดสอบหลาย ๆ คำถามหรือเทียมออกแบบหรือสถานการณ์และเขาจะต้องพบคำตอบสำหรับปัญหาเหล​​่านี้ เมื่อเขาสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายและเทียมเขาค่อยๆพัฒนาความสามารถในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนของชีวิต

พระคัมภีร์ทั้งหมดยอมรับว่าในที่สุดเป้าหมายของมนุษย์เพื่อบรรลุถึงความรอดซึ่งสามารถทำได้โดยเฉพาะการเป็นศักดิ์สิทธิ์ เส้นทางของพระเจ้าคือเส้นทางของศาสดาและลายเซ็นของผู้ที่มีความรู้ที่ได้มาจากพระเจ้าและได้กลายเป็นจิตวิญญาณ เป้าหมายของทุกคนคือการเป็นจิตวิญญาณและทิ้งความสุขทางโลก โลกได้รับการออกแบบในลักษณะที่มันก็ tempts บุคคลเพื่ออดิเรกโลก ในปรัชญาอินเดียจะเรียกว่ามายาหรือภาพลวงตา กองกำลังของโลกจึงชัดเจนว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่เกือบจะที่สุดในการต่อต้านสถานที่ของมัน ดังนั้นคนที่ได้รับการทดสอบอย่างต่อเนื่องในชีวิตของเขาในโรงเรียนที่เรียกว่าโลก เฉพาะเมื่อเขากลายเป็นวิญญาณเขารู้ว่าความสุขที่แท้จริงและความรู้ของพระเจ้า

ดังนั้นโลกไม่ได้ถูกสร้างโดยไม่มีวัตถุประสงค์หนึ่งก็ทดสอบว่าคุณฟังข้อความของร่างกายหรือว่าจิตวิญญาณ เราเริ่มต้นทั้งหมดออกจากร่างกายและย้ายไปยังจิตวิญญาณ หนึ่งที่จะละเว้นข้อความจากจิตวิญญาณและฟังเฉพาะกับร่างกายคือทำให้รู้สึกเจ็บปวดและความตระหนี่ถี่เหนียวด้วยจิตวิญญาณที่จะนำคนไปทางขวา Soul เป็นสาเหตุของความสุขทั้งหมดและความสุขไม่เป็นไปได้โดยไม่มีความสุขของชีวิต พระเจ้าเช่นผู้ตรวจสอบที่ดีไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกกับคุณ แต่เพียงหยดคำแนะนำกับคุณซึ่งช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้บทเรียนด้วยตัวคุณเอง

ดังนั้นธรรมชาติซึ่งเป็นอาการทางกายภาพของโลกก็เหมือนหนังสือที่ต้องใช้เพื่อให้ความรู้จิตวิญญาณเพื่อให้คนที่จะเป็นจิตวิญญาณ ในคำพูดของ Swami Vivekananda,

เหตุผลอย่างยิ่งสำหรับการดำรงอยู่ของธรรมชาติเป็นเพื่อการศึกษาของจิตวิญญาณมันไม่มีความหมายอื่น ๆเพราะมันมีชีวิตต้องมีความรู้และผ่านความรู้ฟรีตัวเอง ถ้าเราจำไว้เสมอเราจะไม่ถูกแนบมากับธรรมชาติการที่เราจะได้รู้ธรรมชาติที่เป็นหนังสือที่พวกเราจะอ่านและว่าเมื่อเราได้รับความรู้ที่ต้องการหนั​​งสือเป็นของไม่มีค่าให้เรา

คนที่สามารถเข้าใจข้อความนี้ค่อยๆเข้าใจชีวิตของพวกเขาและห่างไกลจากโลกนี้และโลกอดิเรก โดยการทำความเข้าใจเสียงของจิตวิญญาณแล้วยังพัฒนาความสามารถในการเข้าใจภาษาของพระเจ้าและกลายเป็นหมอนวดของพระเจ้าในโลกนี้ คนเหล่านี้เรียกว่าโดยโลกเป็นจิตวิญญาณโพหรือศาสดา หนึ่งที่ได้กลายเป็นจิตวิญญาณอย่างแท้จริง, บรรลุศักดิ์และผ่านการตรวจสอบของโลกเพื่อเข้ามาในราชอาณาจักรของพระเจ้า

ข้อสรุป

โลกไม่ได้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าโดยไม่มีวัตถุประสงค์ โลกนี้เป็นเสมือนโรงเรียนและธรรมชาติก็เหมือนหนังสือที่เขียนโดยพระเจ้าที่จะช่วยให้บุคคลในวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของเขาด้วยเรียนรู้ที่จะฟังข้อความของพระเจ้าจากจิตวิญญาณของเขา เมื่อเขาได้มาซึ่งคุณสมบัติที่จำเป็นและคุณค่าของรบเขาผ่านการทดสอบของโลกนี้เพื่อที่จะบรรลุเป็นพระเจ้าและเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า

ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลกนี้หรือไม่

เพลงใหม่ๆ ฟังเพลง